Connect with us

Uncategorized

ชีวิต น้องเติ้ลหนุ่มน้อย ป.4

Advertisement

น้องเติ้ล เด็ กชายขายพวงมาลัยในคลิปของ ก้อง ห้วยไร่ ที่มีการเผยแพร่ในโซเชียล ซึ่งเจอกับน้องเติ้ล อาศัยอยู่กับ นางหลง มนทา อายุ 64 ปี ผู้เป็นย าย และก็น้องสาววัย 7 ขวบ ในบ้านชั้นเดียว ภายในหมู่บ้านโนนข่า ตำบลหัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น้องเติ้ล เป็นเด็ กชายที่มีความทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน กล่าวว่า ตัวเองเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนยิ่งยงอุทิศ ในอำเภอบ้านไผ่ และในช่วงcv-19 sะบาด ไม่ได้ไปโรงเรียน จึงอยู่บ้านดูแลย ายยที่ร่างกายไม่แข็งแรง เพราะขาอ่อนแรง และมีโsคประจำตัวเป็น โsคเบาหวๅน และความดันโล-หิ-ตสูง



น้องเติ้ล กล่าวอีกว่า แม้จะอยู่บ้านแต่ว่าตัวเองไม่ได้เรียนออนไลน์เหมือนเพื่อนๆเพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ บ้านไม่มีอินเทอร์เน็ต ก็เลยไปรับงานจากครูจากโรงเรียนมาทำที่บ้านแทน เมื่อทำเสร็จก็เอางานไปส่งคุณครูที่โรงเรียน แต่เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา มารดาคือ นางธนิตา มนทา อายุ 31 ปี เสี ยชี วิ ตลง พี่สาวก็เลยมารับไปอยู่ด้วยที่ตัวอำเภอบ้านไผ่ จึงช่ว ย พี่สาวข า ยพวงดอกไม้ หาร ายได้มาให้ย าย โดยจะข ายที่สี่แยกไฟแดงมิตรภาพ บ้านเกิ้ง ต.บ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แรกๆก็กลัวรถยนต์ แต่เพราะต้องการหาร ายได้ ก็เลยต้องกล้า และทำมาเรื่อยๆบางวันก็เลิกค่ำ บางวันก็กลับบ้านเร็ว



“ในคืนวันที่เจอพี่ก้อง ห้วยไร่ คือ วันที่ขา ยพวงมาลัยจนถึงสี่ทุ่ม เหลือพวงมาลัยอยู่ 3 พวง ขณะเดินขายก็เจอคนเปิดกระจกลงมา และก็เรียกให้เดินเข้าไปหา พร้อมกับคล้องพวงมาลัยเงิuสดให้ เมื่อมองหน้าชัดๆจึงรู้ว่าเป็นพี่ก้อง ห้วยไร่ ที่เป็นดารา นักร้อง รู้สึกดีใจที่พี่ก้องให้เงิu และก็เuนที่ได้ก็นำกลับมามอบให้ย ายที่บ้าน ส่วนสิ่งที่ต้องการขณะนี้ คือ อย ากเจอหน้าพ่อ เพราะไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลย และอย ากได้สกูตเตอร์ แต่ไม่มีเงิuซื้ อ” น้องเติ้ล กล่าว

Advertisement


ขณะที่ นางหลง มนทา อายุ 64 ปี ย ายของน้องเติ้ล กล่าวว่า อาศัยอยู่ที่บ้านกับลูกชายและลูกสาว แต่ลูกทั้งสองคนต ายจากไปหมดแล้ว ก็เลยอยู่กับหลานๆรวม 4 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 18 ปี คนที่สองเป็นผู้ชาย อายุ 15 ปี ผู้ที่สามเป็น น้องเติ้ล อายุ 9 ปี ผู้ที่สี่ชื่อน้องพลอย อายุ 7 ปี ทั้ง 4 คนมีแม่คนเดียวกันหมายถึงนางธนิตา มนทา แต่คนละพ่อกัน ที่ผ่านมา บุตรสาว ลูกชายพากันหาร ายได้มาเลี้ยงลูกหลาน เมื่อลูกสองคนต ายจากไปแล้ว ก็ไปทำงานแม่บ้าน ได้เงิuเดือน เดือนละ 3,000 บ. มาเลี้ยงหลานๆแต่ด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรง โsคประจำตัวก็มี ทำให้ไปทำงานไม่ได้ เพราะขาอ่อนแรง เมื่อเดินนานๆขาจะล้มพับลงไปเอง หลานๆจึงไม่ให้ไปทำงาน ให้ย ายอยู่บ้าน หลานๆจะหาเลี้ยงเอง


พี่สาวน้องเติ้ลจะไปรับพวงมาลัยมาข าย ซึ่งหากขา ย พวงดอกไม้ได้ 50 พวง จะได้ค่ๅว่าจ้าง 300 บ. ถ้าข ายได้น้อยก็จะได้ค่ๅจ้าง 100-200 บริษัท แต่เจ้าของพวงดอกไม้จะจ่ ายค่ๅอาหารให้คนละ 50 บ.ต่อวัน เมื่อน้องเติ้ลขายพวงมาลัยได้เงิuมา ก็จะกลับบ้านเอาเงิuมาให้ย าย จากนั้นจะไปนอนกับพี่สาว เพื่อจะได้ขายพวงมาลัยตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำทุกวัน น้องเติ้ลทำแบบนี้มาร่วม 3 เดือนแล้ว โดยหลานสาวคนโตรับน้องเติ้ลไปอยู่ด้วยในอำเภอบ้านไผ่ แล้วก็ขายพวงมาลัยช่วยกัน หลานชายผู้ที่สอง อายุ 15 ปี เห็นย ายป่วย ทำงานไม่ได้ ก็ออกจากโรงเรียน ไปหางานทำที่โรงงานล้างขวด หาร ายได้มาให้ย าย ใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งจะมีค่ๅใช้ร ายจ่ายประจำเป็น ค่ๅน้ำ ค่ๅไฟ รวมแล้วเดือนละประมาณ 800 บ. ส่วนร ายเหมาะหลานๆหามาให้ ก็จะเก็บไว้ใช้จ่ ายในครอบครัว ทั้งซื้ อข้าวสาร ซื้ ออาหารมาทำให้หลานๆได้กิน


ขณะที่ นางสาวสุจิตร ภูเงิu ครูประจำชั้นของน้องเติ้ล กล่าวว่า น้องเติ้ลเป็นคนมีน้ำใจ คอยช่วยเหลือเพื่อนๆและนักการภารโรงอยู่บ่อยครั้ง ส่วนการเรียนก็ปานกลาง ในช่วงโ-ค-วิ-ดก็รับงานมาทำที่บ้าน ส่วนการที่น้องเติ้ล รับพวงมาลัยจากดาราน้องร้อง ก้อง ห้วยไร่ จนกลายเป็นกระแสในโซเชียลนั้น ก็ได้สอบถามกับลูกศิษย์ ซึ่งทราบว่า ขณะขายพวงมาลัยก็เจอกับก้อง ห้วยไร่ และได้รับพวงมาลัยเงิuสดมา จึงนำมามอบให้ย าย ในฐานะครู สิ่งที่น้องเติ้ล ซึ่งเป็นเด็ กชายอายุ 10 ขวบ ทำงานขายพวงมาลัยหารายได้มาเลี้ยงย าย แล้วก็ช่ว ยเหลือพี่น้องนั้น แม้จะเป็นเด็ ก แต่มีการกระทำที่น่าชื่นใจ ซึ่งก็คอยให้กำลังใจ และก็รอแนะนำให้พักอย่านอนดึก อีกทั้งโรงเรียนก็คอยสนับสนุนเรื่องทุนการศึกษาให้กับพี่น้องในครอบครัวนี้ตลอดมา และก็มั่นใจว่าสิ่งดีๆที่น้องเติ้ลทำให้ย าย จะช่วยยให้น้องเติ้ลพบเจอความสุขความเจริญในอนาคต

Advertisement
Advertisement

More in Uncategorized

  • ร้านกะเพราปรับไรเดอร์ 2,000

    Advertisement วันที่ 3 เดือนมิถุนายน 2565 โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ กรณีร้านอาหารแห่งหนึ่งติดป้ายหน้าร้านว่า “ไม่อนุญาตให้ไรเดอร์นั่งในร้าน ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท นั่งรอด้านนอกให้เป็นระเบียบ ขอบคุณค่ะ” จากป้ายดังกล่าวทำให้ขบวนทัวร์ไปจอดถึงหน้าร้าน ส่วนมากมองว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง ทำแบบนี้เหมือนแบ่งชนชั้น ไรเดอร์ก็เป็นเหมือนตัวแทนของลูกค้า ทั้งนี้ มีบางคนบอกว่า บางแอปพลิเคชันให้ไรเดอร์ออกงานซื้ออาหารเองก่อน แล้วค่อยไปเก็บกับลูกค้า ถ้าโดนลูกค้าเท ไรเดอร์ก็ต้องรับผิดชอบเอง แบบนี้ยังไม่เรียกลูกค้าอีกเหรอ ถ้าหากไม่มีไรเดอร์เหล่านี้ขี่รถส่งอาหารให้ ยอดขายก็อาจลดลง ทุกอาชีพต้องพึ่งพาอาศัยกัน และร้านมีสิทธิ์อะไรไปปรับเงินไรเดอร์ Advertisement ต่อมา เฟซบุ๊กเพจ ราชากะเพราประตูน้ำ ทนแรงต้านของกระแสดราม่าไม่ไหว ออกมาโพสต์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่ายิ่งทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิม เพราะมีการบอกว่า พนักงานในร้านเป็นคนติดป้าย และระบุว่าเป็นถ้อยคำที่ไร้มารยาท ไร้การศึกษา ดูถูกผู้อื่นแบบน่าเกลียด เขียนป้ายแบบไม่รู้จริง และได้ไล่พนักงานออกแล้ว ขอโทษไรเดอร์ทุกคน ทางร้านน้อมรับผิดทุกกรณี โดยหากอ่านคำชี้แจงทั้งหมด ชาวเน็ตส่วนใหญ่มีความคิดเห็นในทางเดียวกันว่า ไม่น่าจะมีพนักงานคนไหนที่กล้าเขียนป้ายไปติดหน้าร้านค้าเอง โดยที่ไม่มีคำสั่งจากเถ้าแก่ หรืออาจเป็นเจ้าของร้านที่เขียนเอง หลายคนถึงขั้นวิเคราะห์ภาษาที่เขียนหน้าร้านกับภาษาที่ชี้แจง น่าจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ แถมมีการเรียบเรียงภาษาแปลกๆอาทิเช่นประโยคที่ว่า “เขียนป้ายแบบไม่มีความรู้จริงว่า ทางร้านจะสามารถไปปรับเงินไรเดอร์ได้ หรือให้ไรเดอร์นั่งรอให้เรียบร้อย” ยังมีการจับผิดป้ายหน้าร้าน เช่น คำว่า “อนุญาต” เขียนคำนี้ถูกแสดงว่าต้องเป็นคนมีการศึกษาอยู่พอสมควร ดราม่าเดือด ร้านกะเพราห้ามไรเดอร์รอในร้าน ปรับ 2,000 อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงเถ้าแก่ ทำให้ทัวร์ลงหนักกว่าเดิม อ่านแล้วราวกับเหยียดในเหยียด ขนาดโบ้ยพนักงานผิดแล้ว ยังดูถูกบุคลากรตัวเองมากมาย โดยเฉพาะคำว่าไร้การศึกษา คำนี้ค่อนข้างแรง มีเจ้านายแบบนี้ พนักงานที่เหลือควรคิดใหม่ได้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีคนไม่เห็นด้วยที่ว่า ไร้มารยาท ไร้การศึกษา เพราะบางคนการศึกษาไม่สูง แต่มารยาทดีมาก...

  • น้องไอซ์ สู้ชีวิต พ่อแม่แยกทางกัน

    Advertisement วันนี้มีเรื่องราวของเด็กที่เติบโตมาได้ดี ถึงแม้จะขาดหรือไม่มีเหมือนเด็กคนอื่น พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ สำหรับ ‘ด.ช. ปรเมษฐ์ พรมนิมิต’ หรือ “น้องไอซ์” ที่อาศัยอยู่กับปู่กับย่า ทั้งพ่อและแม่ต่างมีครอบครัวใหม่ ทิ้งไว้ให้ปู่กับย่าเลี้ยงดู ช่วงแรกๆพ่อกับแม่ยังช่วยส่งเสีย “น้องไอซ์” แต่พอมีครอบครัวใหม่ให้ดูแลด้วยจึงส่ง เ งิ น มาให้ “น้องไอซ์” นานๆครั้ง ปู่กับย่าเลี้ยง “น้องไอซ์” มาจนถึงตอนนี้เหมือนเป็นบิดามารดา ทำให้ “น้องไอซ์” รักปู่กับย่ามาก Advertisement ปู่กับย่ามีอาชีพทำไร่ทำนา “น้องไอซ์” ตามปู่กับย่าไปปลูกมันสำปะหลังเป็นประจำ ตอนนี้จึงช่วยงานในไร่ได้แทบทุกอย่าง หากปีไหนฝนแล้ง ทำไร่ของตัวเองได้ เ งิ น ไม่พอใช้จ่าย ก็ต้องออกไปรับจ้าง สวนของเพื่อนบ้านคนอื่นด้วย ทั้งนี้เพราะนอกจากจะส่งเสีย “น้องไอซ์” เรียนหนังสือแล้ว ยังมีอาที่ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยอีกคน “น้องไอซ์” ก็เลยออกไปช่วยงานทุกครั้งที่ไม่ได้ไปโรงเรียน Advertisement เพราะอยากแบ่งเบาแรงปู่กับย่าให้ได้เยอะๆแล้วก็พยายามประหยัดรายจ่ายด้วยการออกไปเก็บผัก หาปลาตามไร่นากับปู่ เพื่อเอากลับมาทำกับข้าวกินในแต่ละวัน การได้ศึกษางานจากปู่ย่ามาตั้งแต่เล็กทำให้ “น้องไอซ์” สามารถทำงานได้หลายอย่าง อย่างเช่น ปลูก ถอน ตัด แทงมันสำปะหลัง และทำนา นอกจากนั้น “น้องไอซ์” ยังชอบเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ใฝ่ฝันไว้ว่าหากมีโอกาสเรียนสูงๆ Advertisement “น้องไอซ์” อยากเรียนต่อคณะครุศาสตร์และเป็นคุณครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ เพราะเหตุว่าต้องการที่จะให้เด็กๆได้เรียนรู้ใน...

  • แม่ค้าโจ๊กให้โจ๊กเด็กหญิง

    Advertisement เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตแห่แชร์ และก็ให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เมื่อมีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ โจ๊ก หม้อทะลุล้าน ได้ออกมาโพสต์ภาพและเรื่องราวโดยได้ระบุข้อความว่า… น้าขา ขอโจ๊กกินหน่อยค่ะ หนูหิวข้าว .. ถามว่าหนูมากับใคร น้องบอกว่ามากะพ่อค่ะ ถามว่าแม่ล่ะ น้องตอบว่าแม่เลี้ยงน้องค่ะ ถามว่าบ้านน้องอยู่ไหน น้องตอบว่าอยู่ใต้สะพานจ้ะ ถามว่าพ่อทำงานอะไร น้องตอบว่าพ่อไม่มีงานทำค่ะ เราเลยบอกไปว่า มากินได้ทุกวันเลยนะลูก เอาไปฝากน้องด้วยก็ได้นะคะ ( พิกัด ใต้สะพานสี่แยกคลองตันค่ะ ) ต้นทุนคนเราไม่เท่ากัน เด็กไม่ผิด เพราะเค้าเลือกเกิดไม่ได้ Advertisement Advertisement

  • พี่ชายโทรมาบอกข่าวดี

    Advertisement ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล วันที่ 1 เดือนมิถุนายน 2565 รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท 319196 เลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัลๆละ 4,000 บาท 679 817 เลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัลๆละ 4,000 บาท 652 213 เลขท้าย 2 ตัว 1 รางวัลๆละ 2,000 บาท 02 รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 2 รางวัลๆละ 100,000 บาท...

error: Content is protected !!